2019

ตามหัวข้อเลยครับ การไปดูบอลต่างประเทศสักครั้งหนึ่ง การเลือกที่พักของแต่ละคน ก็ต้องดูหลายๆ องค์ประกอบเพื่อตัดสินใจ บางคนไปกันเป็นก๊วนกับเพื่อนสนิท เน้นประหยัด ลุยไหนลุยกัน ก็อาจจะเลือกนอนโฮสเทล แบบห้องรวม หรือ ถ้าไปกับแฟน ญาติพี่น้องที่มีผู้อาวุโสไปด้วย การพักโรงแรมถือว่าเป็นทางเลือกที่สะดวกและเหมาะสม ถ้าคิดว่าไปหลายๆ วัน หรือ เป็นสัปดาห์ขึ้นไป หากไม่ชอบทานอาหารฝรั่ง ต้องการครัว เพื่อทำอาหารเอง เพราะถูกปากกว่า อาจจะเช่าอพาร์ทเมนท์จาก airbnb “ราคา” สำหรับสิ่งที่ผมเจอมาตลอด คือ ที่พัก โดยเฉพาะ โรงแรมที่อังกฤษจะอัพราคาขึ้นเสมอในช่วงที่มีฟุตบอลเตะ ไม่ว่าจะเป็นสุดสัปดาห์ หรือ กลางสัปดาห์ ราคาสูงกว่าช่วงปกติหลายเท่า (จริงๆแล้ว ก็เจอมาเกือบทุกประเทศ เมื่อมีทัวร์นาเมนท์ใหญ่ๆแข่ง) ดังนั้นบอกได้เลยว่า ต้องทำใจครับ ยกตัวอย่าง เช่น โรงแรม 3 ดาว ที่แมนเชสเตอร์ อย่าง Holiday Inn Express Manchester City Center Arena วันธรรมดา เข้าพัก

ตามหัวข้อเลยครับ เป็นคำถามที่หลายคนอาจจะลังเล ว่าการไปดูบอลต่างประเทศ ไม่ว่าจะไปอังกฤษ สเปน อิตาลี หรือ เยอรมนี  เราจะ ไปเอง หรือ ไปกับทัวร์ดูบอล ความเห็นของผม ผมว่า เราต้องถามตัวเองก่อนครับว่า เราพร้อมแค่ไหน หากคุณเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศเองอยู่บ่อยๆ ก็ไม่ยากเลย เพียงแค่ต้องหาข้อมูลแน่นๆเพิ่มเติมเท่านั้นเอง หรือใครที่ไม่มีเวลาวางแผน การใช้บริการทัวร์ก็เป็นทางเลือกหนึ่ง ข้อดีของการไปดูบอลด้วยตัวเอง ประหยัดเงิน คุณสามารถเลือกเซฟในจุดต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าโรงแรม ค่าอาหาร หรือ ค่าเดินทางในประเทศนั้นๆ เช่น ตั๋วเครื่องบินเราไม่จำเป็นต้องบินตรงเสมอไป การไปทรานสิทและมีเวลาพักยืดเส้นยืดสาย 2-3 ชั่วโมง เพื่อต่อเครื่องทำให้ประหยัดได้ หรือ การเลือกที่พัก ในบางทำเล โรงแรม 3-4 ดาว ในวันที่มีบอลเตะราคาจะสูงมาก อาจจะลองหาห้องพักจาก Airbnb ทำเลที่ใกล้เคียงกัน บางทีราคาเบากว่าเยอะเลย 2.      ยืดหยุ่น เราไม่จำเป็นต้องรอใคร เช่น เวลานัดขึ้นรถ หรือ บางทีเราอยากจะแวะในบางสถานที่นานหน่อย ก็อยู่ได้เต็มที่ ไม่ก็เราอาจจะมีแพลนไปดูอาร์เซน่อลเตะในวันเสาร์ ถ้าโชคดีวันอาทิตย์มีทีมในลอนดอนเตะด้วย

เมื่อตอนที่แล้วผมได้ รีวิว การซื้อตั๋วไปดูบอลที่สนามแอนฟิลด์ของ ลิเวอร์พูล ซึ่งผลปรากฎว่า ล้มเหลวไม่เป็นท่า มาตอนนี้ลองทดสอบกับระบบการซื้อตั๋วของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กันบ้างครับ   ขั้นตอนที่ 1 สมัครสมาชิก Official Membership ที่นี่ ก่อนอื่นถ้าคุณพร้อม และจงรักภักต่อสโมสร ให้สมัครเป็นสมาชิก Official Membership รายปีได้เลย สำหรับผู้ใหญ่จะมีหลักๆ 2 ประเภท คือ Full Official Membership 35ปอนด์/คน/ปี (1,400 บาท)   Lite Official Membership 25ปอนด์/คน/ปี (1,000 บาท)   ทั้งสองแบบจะมีสิทธิพิเศษเหมือนกันคือ –          ได้สิทธิ์ในการซื้อตั๋วดูบอลที่เล่นในโอลด์แทรฟฟอร์ด –          บัตรสมาชิก –          ส่วนลด 50% ในการซื้อทัวร์ชมสนามและมิวเซี่ยม –          ส่วนลด 10% ในการใช้บริการห้องอาหาร Red Café และส่วนลดสินค้าที่Mega Store ส่วนข้อแตกต่างจะมีแค่ สมาชิกแบบ Full Official Membership จะได้ ของที่ระลึก ส่งไปถึงบ้าน ขั้นตอนที่ 2 เข้าคิวซื้อตั๋ว เมื่อเราสมัครสมาชิกจ่ายเงินเรียบร้อย ก็จะได้ เลขที่สมาชิก อย่างเป็นทางการมา เพื่อใช้สมัครซื้อตั๋ว ที่นี่

เมื่อตอนก่อน ผมออกแบบทริปไปดูบอลที่ประเทศอังกฤษ สำหรับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด กันไปแล้ว มาตอนนี้เอาใจสาวก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กันบ้าง ต้องขอบอกก่อนว่า เป็นวิธีการจัดทริปแบบง่าย เน้นประหยัด และเป็นแนวทางสำหรับมือใหม่ ที่อยากจะสานฝันของตัวเองที่ว่า ไปดู ลิเวอร์พูล ที่สนาม แอนฟิลด์ ให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต มาลุยไปพร้อมๆกันเลยครับ   ขั้นตอนที่ 1 เช็คโปรแกรมแข่ง สมมติว่า ผมว่างเดือน ก.ย. ช่วงนั้นมีโปรแกรมที่น่าสนใจคือ ลิเวอร์พูล เปิดรังเจอกับ นิวคาสเซิล วันที่ 14 ก.ย.   ขั้นตอนที่ 2 หาตั๋วดูบอล เพื่อความรวดเร็วในการวางแผน เริ่มต้นผมเช็คดูกับ stubhub.com ก่อน ปรากฏว่า ราคาตั๋วเกมนี้ราคา 285 ปอนด์ (11,400 บ.) ถือว่า สูงใช้ได้เลย เมื่อกดดู ก็พบว่าเป็นตั๋วแบบ Hospitality

ในตอนนี้ผมจะลองลงมือวางแผน จัดทริปไปดูบอลที่อังกฤษอย่างง่ายให้ดูกันนะครับ ขอเริ่มที่ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กันก่อน ขั้นตอนที่ 1 เช็คโปรแกรมแข่ง ทริปนี้จะไปแบบ “ประหยัด” การเลือกเกมไม่ใหญ่ จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสม ผมจึงเล็งเป้าไปที่นัด แมนฯยูไนเต็ด เปิดรังโอลด์แทรฟฟอร์ด พบ แอสตัน วิลล่า วันที่เสาร์ที่ 30 พ.ย. 62 ขั้นตอนที่  2 หาตั๋วดูบอล เพื่อความประหยัดเวลาในการเขียนตัวอย่าง ในที่นี้ผมเลือกซื้อตั๋วกับ stubhub ราคาใบละ 109 ยูโร (ประมาณ 3,850 บาท) ทำเลอยู่หลังโกล (ที่นั่งแต่ละโซน ราคาแตกต่างกัน)   ขั้นตอนที่ 3 หาที่พัก ผมเลือกที่จะนอน hostel แบบเตียงรวม จองผ่าน booking.com โดยที่ Hatters Manchester ขึ้นมาเป็นตัวเลือกที่เข้าท่าที่เดียว เพราะตั้งอยู่ในซิตี้เซ็นเตอร์ เดินทางสะดวก หาของกินง่าย

สำหรับแฟน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล และ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่อยู่เมืองไทย ผมเชื่อว่าร้อยทั้งร้อย มีความฝันคล้ายๆกัน คือ การไปดูบอลที่อังกฤษถึงสนาม อย่าง แอนฟิลด์ หรือ โอลด์ แทรฟฟอร์ด แน่นอนว่า ทางเลือกในการไปดูบอลมี 2 ช่องทางหลักๆ คือ ซื้อทัวร์ดูบอล ไปเอง จากที่สำรวจตลาดแพ็คเกจทัวร์ พบว่า ส่วนใหญ่ต้องใช้เงินเป็นแสนบาท ผมบอกได้ตรงนี้เลยว่า ไปเองถูกกว่าเยอะ คือ ตั้งแต่เปิดเพจ “ไปดูบอล” ขึ้นมาได้ไม่นาน แทบทุกวัน จะมีคนส่งข้อความมาถามผมตลอด ซึ่งคำถามยอดฮิต จะมีไม่กี่คำถาม เช่น ไปดูบอลที่ลิเวอร์พูล/แมนเชสเตอร์ ใช้เงินกี่บาท งบเท่าไหร่, ไปดูบอลที่อังกฤษเอง ยากไหม ขอแนวทางด้วย, ขอวิธีซื้อตั๋วดู ลิเวอร์พูล/แมนฯยูไนเต็ด หน่อยครับ ฯลฯ จะวนเวียนอยู่ประมาณนี้ บทความนี้ผมจึงอยากจะสรุปให้เข้าใจให้ง่ายที่สุด และหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ที่วางแผน หรือ มีความฝันเหมือนๆกัน ค่าใช้จ่ายหลักๆจะประกอบด้วย (ขอย้ำอีกทีว่า ไปแบบ

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 ที่จัดในครั้งนี้จะแตกต่างจากในอดีต เนื่องจากมีการจัดกระจายออกไปตามเมืองต่างๆ 12 เมืองทั่วยุโรป จากเดิมที่จัดประเทศเดียว หรือ อย่างมากก็จัดร่วม 2 ประเทศ ดังนั้นแฟนบอลอย่างเราต้องทำการบ้านมากเป็นพิเศษ วันนี้ผมจะลองวางแผนให้ดูเป็นตัวอย่าง ถือเป็นไอเดียหนึ่งเท่านั้น ซึ่งอาจจะไม่ได้ดีที่สุดก็ได้ ยังไงก็ลองมาติดตามกันครับ Step 1 กำหนดจำนวนวันหยุด ยูโร 2020 ใช้เวลาแข่ง 1 เดือน ระหว่างวันที่ 12 มิ.ย. ถึง 12 ก.ค. ก่อนอื่นต้องถามตัวคุณเองว่า สามารถหยุดงานได้นานแค่ไหน สำหรับผมเองทำธุรกิจส่วนตัว อย่างมากสุดก็ได้ 2 สัปดาห์ ที่จะไม่ให้เสียการเสียงาน ส่วนคนที่ทำงานประจำ 7-10 วันก็น่าจะหรูมากแล้วครับ Step 2 เลือกประเทศที่อยากไป การที่ยูโร 2020 จัดขึ้นตามเมืองต่างๆ ผมมองว่าเป็นข้อดีเลย เพราะมีหลายประเทศที่ผมยังไม่เคยไป ถือเป็นโอกาสที่จะไปเยือนในครั้งนี้ด้วย เยอรมนี กับ ฮอลแลนด์ เป็น

สิ่งที่ควรรู้ในการซื้อตั๋วฟุตบอลยูโร 2020 1. มีเวลา 1 เดือน ในการลงทะเบียนสมัครซื้อตั๋ว ระหว่างวันที่ 12 มิ.ย.-12 ก.ค.62 ทุกคนจะมีโอกาสเท่ากัน เพราะตั๋วทุกใบจะทำการจับสลาก 2. ตั๋วส่วนใหญ่จะถูกจัดสรรขายในรอบนี้ ตอนใกล้แข่งแม้จะมีขายอีกรอบ แต่ก็มีจำนวนน้อยมาก ส่วนตั๋วแบบระบุทีมเชียร์จะมีขายให้เฉพาะแฟนบอลทีมชาตินั้นๆ ต้องซื้อกับทางสมาคมฟุตบอล 3. รอบนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุด ที่จะสามารถเลือกซื้อได้ทุกเกม 1 คนซื้อได้สูงสุด 4 ใบต่อเกม Key Dates – 12 มิ.ย.62 เปิดรับสมัครซื้อตั๋ว – 12 ก.ค.62 ปิดรับสมัคร – ระหว่าง ก.ค./ส.ค.62 ประกาศผล และชำระเงินตามกำหนด – ธ.ค.62 ยูฟ่าจะแบ่งตั๋วให้กับสมาคมฟุตบอลชาติที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย ไปขายให้แฟนตัวเอง – เม.ย.63 ขายตั๋วที่เหลือให้ชาติที่ผ่านรอบเพลย์ออฟ – 12 มิ.ย.-12 ก.ค.63 ช่วงเวลาจัดการแข่งขัน ตั๋วแต่ละประเภทแตกต่างกันยังไง ตั๋วฟุตบอลยูโร

เชื่อว่าคนดูบอลด้วยกัน ร้อยทั้งร้อย ที่ดูบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต้องมีความฝันคล้ายๆกัน คือ วันหนึ่งจะต้องไปดูบอลที่สนามให้ได้ จากประสบการณ์ส่วนตัว ช่องทางซื้อมีหลายทางครับ ซึ่งผมรวบรวมให้ตามนี้เลย 1. ซื้อผ่านเว็บสโมสร ปกติสโมสรจะขายตั๋วให้กับสมาชิกที่จ่ายเงินรายปีก่อน ถ้าขายไม่หมดก็มีรอบขายให้บุคคลทั่วไป แต่ทีมที่มีแฟนบอลเหนียวแน่น เช่น ลิเวอร์พูล แมนฯยูไนเต็ด จะซื้อตรงค่อนข้างยาก เพราะดีมานด์เยอะ หมดไวมาก ข้อดี – ได้ราคาทุนจากสโมสรเลย ข้อเสีย – ซื้อยากมาก ยิ่งถ้าช่วงทีมฟอร์มดี มีลุ้นแชมป์ เป็นเกมใหญ่ หรือ ช่วงท้ายฤดูกาล ไม่ต้องหวังเลย 1.1 ซื้อตั๋วแบบ Hospitality อันนี้คือ ซื้อกับสโมสรเช่นกัน ราคาค่อนข้างสูง จะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม ปกติตั๋วขายอยู่ที่ 30-80 ปอนด์ (ประมาณ 1,200-4,000 บ.) ถ้าเป็นตั๋ว Hospitality จะขายราวๆ 300-1,000 ปอนด์ (ประมาณ 13,000-45,000 บ.) แล้วแต่ความหรูหรา