ไปอังกฤษ ใช้เงินเท่าไร 10 ข้อต้องคิดของแฟนบอลไทย ที่อยากไปดูบอลพรีเมียร์ลีกที่อังกฤษ
ความฝันและเป้าหมายในชีวิต เรื่องนึง ของคนรักการเชียร์ฟุตบอล นั่นก็คือ
“การเดินทางไปดูบอล ถึงขอบสนาม ที่อังกฤษ”
ใครเป็๋นแฟนทีมไหน ก็อยากไปสัมผัสบรรยากาศในสนาม ของทีมที่เราเชียร์ ใช่ไหมครับ
แต่ก็คงมีแฟนบอล จำนวนไม่น้อย ที่ในใจ เนี่ย อยากไปมากกกกกกกกกกกก
แต่ทว่า ในตอนนี้ก็ยังไม่มีกำลัง ไม่มีความพร้อมเพียงพอ ที่จะพาตัวเราเองไปดูบอลถึงในสนามจริงได้
ผมเองก็เป็นคนนึงนะครับ ที่มีความฝันนั้น แล้วก็ตั้งใจว่าสักวัน จะพาตัวเองไปอยู่ในสนามจริงๆให้ได้
คราวนี้ เราลองมาดูความกังวลและความพร้อม ของคนที่อยาจะไปดูบอล ถึงขอบสนามจริงที่อังกฤษครับ
10 เรื่อง ที่ต้องคิด?? แฟนบอลไทย ที่อยากไปดูบอลถึงขอบสนามที่อังกฤษ กลัวและกังวล
1. ค่าใช้จ่าย
ปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่คือเรื่องหลักและสำคัญที่สุด ถ้ามีงบประมาณ ยังไงก็ไปได้ แต่ถ้าไม่มีงบประมาณ ยังไงก็ไปตามความฝันยากใช่ไหมครับ
หลายคนอาจจะบอกว่า เราไม่ใช่ลูกคนรวย ไม่ใช่เศรษฐี ไม่ใช่เจ้าของกิจการ ไม่มีเงินไปหรอก ดูหน้าจอทีวีก็ได้
อันนี้คือถูกต้องครับ แต่คงไม่ใช่ทั้งหมด ซึ่งถ้าหากว่าเรามีความฝัน เราก็ต้องวางแผนการหารายได้เพิ่ม วางผนการออมเงิน ซึ่งก็อาจจะไม่ใช่เร็ววันนี้ที่จะสำเร็จ ยกเว้นโชคดี ถูกลอตเตอรี่เบอร์ใหญ่ สิ้นเดือนนี้เลย
ถ้าสมมุติว่าตั้งเป้าไว้ 10 ปีล่ะ ว่าเราเนี่ยจะไปดูบอลให้ได้ โดยตั้งเป้าเราเก็บเงินให้ได้ 1 แสนบาท
ถ้าเก็บปีละ 10,000 บาท พอมาเฉลี่ย เดือนละ ไม่ถึง 1,000 บาท ซึ่งถ้าเราวางแผนดีดี ในการหาช่องทางรายได้เพิ่ม หรือ การออมเงิน มันก็น่าไปถึงฝั่งฝันได้ ไม่ช้าก็เร็วครับ
2. ภาษา
นี่ก็เรื่องน่ากังวลต่อมา ทำไงดี พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แถมไปแล้วจะคุยกับเขารู้เรื่องได้ยังไง??
เอาเป็นว่าเรื่องนี้ผมคนนึงแหละ ไม่ได้เก่งภาษาอะไรมากครับ แต่ก็ก่อนไป เราเตรียมตัวศึกษาข้อมูล เตรียมตัวไปก่อน พอสมควร
ไม่ว่าจะเรื่องไปถึงสนามบินแล้วต้องตอบยังไง เดินทางถามทางงยังไง ถึงโรงแรมแล้วคุยยังไง
ซึ่ง ถ้าเราเตรียมตัวไปก่อน อันนี้ผมบอกเลยช่วยได้เยอะครับ เพราะ คนที่อังกฤา เขาพร้อมช่วยครับ เขาฟังเราไม่ออก แต่สามารถสื่อสารด้วยสัญลักษณ์ ภาษมือ
หรือ ง่ายๆเลยแอพ Google แปลภาษาครับ
3. การขอวีซ่า
เรื่อง วีซ่าเป็นเรื่องที่ต้องเตรียมเอกสารเยอะ ถ้าใครไม่เคยขออันนี้จะค่อนข้างกังวล ว่า ขอแล้วจะผ่านไหม
จากประสบการณ์ ถ้าเดินทางไปเอง มีหลักฐานที่อยู่ชัดเจน มีสลิปเงินเดือน หรือ หลักฐานการจ่ายภาษี หลักฐานการซื้อตั๋ว การจองที่พัก แบบนี้ ไม่น่ามีปัญหาอะไร และถ้าไปกับทัวร์หรือทริปดูบอล ทางเจ้าของทริป จะช่วยจัดการและให้คำแนะนำอยู่แล้วครับ
4. ไม่เคยไปต่างประเทศเลย โดยเฉพาะยุโรป
หลายคนกังวลและคิดไปก่อน เขาจะเหมือนบ้านเราไหมนะ จะหนาวไหมนะ จะเดินทางยังไงนะ จะคุยยังไงนะ และกังวล คิดเยอะจนกลัวการไปต่างประเทศ
สุดท้ายแล้ว เวลาไป คนที่นั่นเขาไม่ได้มาสนใจอะไรเรามากครับ เราคือนักท่องเที่ยวไปเที่ยวบ้านเขา ก็ทำตัวกันปกติ
ตอนผมไปนะครับ คนที่นั่งข้างๆในสนาม เป็นผู้ชายวัย 40กว่า ชาวอังกฤษ ยื่นเบียร์ให้ดื่มและให้ร้องเพลงเชียร์ไปด้วยกันเลย ในสนาม แต่ผมไม่ได้รับนะครับ เกรงใจ 555
พูดคนละภาษา แต่ภาษาฟุตบอล มันสื่อถึงกันได้ครับ
5. กลัวการนั่งเครื่องบิน
หลายคนไม่เคยนั่งเครื่องบิน ซึ่งการเดินทางไปอังกฤษใช้เวลา 10-12 ชั่วโมง อาจจะทั้งสภาพอากาศแย่ เจอบรรยากาศดีดีสวยๆ ถ้ามองจากบนเครื่อง ลงมาที่พื้น
ที่ผมชอบมากคือตอนผ่านทะเลทรายครับ สวยมากถ้ามองจากบนหน้าต่างเครื่องบินลงมา
ขณะที่อยู่บนเครื่องบินมีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย ทั้งดูหนัง ฟงัเพลง กิน ดื่ม นอน อ่านหนังสือ ดังนั้น ไม่ต้องกังวลครับ ถือว่าเป็นประสบการณ์ดีดีสั้ครั้งในชีวิต
6. ลางานไม่ได้
เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะคนทำงานประจำนะครับ คนที่เป็นเจ้าของกิจการก็เป็นปัญหาเช่นกัน
หยุดงานไป ใครจะดูแลกิจการแทน กลัวจะเสียรายได้ มนุษย์เงินเดือน กลัวจะโดนไล่ออก อันนี้พากันกังวลไปก่อนที่จะถึงเวลาจริง
การไปอังกฤษใช้เวลา ประมาณ 4-5 วัน ต่อการดูบอล 1 นัด เผื่อเที่ยวด้วย แต่บางทีไปกับทัวร์อาจมี 7-8 วัน ได้ดู 2 คู่
ซึ่งให้เราเตรียม ลองจำลองสถานการณ์ว่า ถ้าเป็นเจ้าของกิจการไป 7-8 วัน แบบนี้ งานจะสะดุดไหม มอบหมายคนทำงานแทน หากเป็น มนุษย์เงินเดือน ก็ลองคิดเผื่อไว้เลยว่าถ้าหยุดงาน 7-8 วัน จะฝากงานใครได้ คุยกับหัวหน้างานไว้ก่อน จะได้มีแผนรับมือครับ
7. โรคระบาด
อันนี้เป็นข้อกังวลมากๆ ในช่วง 2 ปีมานี้ เราปฏิเสธไม่ได้ว่ามีผลต่อการตัดสินในจ แต่ถึงอย่างไร ถ้าเราเอง ได้รับวัคซีนครบ 2 3 4 โดส และเฝ้าระวังตัวเองให้มาที่สุด เราก็สบายใจได่ในระดับนึงแล้วครับ
พอเวลาไปถึงที่ขอบสนามจริง อย่างน้อยๆ เพราะบรรยากาศและ ที่เราได้สัมผัส มันคือประสบการณ์ที่ล้ำค่ามาก ทำให้เราก็ลดความกังวลลงไปได้
ซึ่งผมไม่ได้บอกว่า เราไม่ต้องกลัว เราต้องกลัวไว้ก่อน แต่ในสุดท้ายเราก็ต้องอยู่กับโรคให้ได้ครับ เพราะไม่ได้มีแค่ที่อังกฤษระบาด เมืองไทยเราก็ระบาด ทั่วโลกก็ระบาดเช่นกัน
8. กลัวโดนหลอกจากการซื้อตั๋วและทัวร์
หลายคนเคยมีประสบการณ์ไม่ดี เก็บเงินมาทั้งชีวิต จ่ายเงินไปแล้วโดนเท ซะงั้น ซึ่งผมก็เห็นใจนะครับ สำหรับใครเคยเจอประสบการณ์แย่ๆมาก่อน
ในตอนช่วงปี 2019 ที่ผมเดินทางไปดูบอลเอง ผมซื้อตั๋วจะเว็บทางการเว็บนึง แล้วต้องไปรับตั๋วที่อังกฤษ ซึ่งถ้าไปแล้ว เขาไม่ส่งตั๋วมา ผมอาจจะเสียเงินไปฟรีๆเลยครับ
แต่โชคดีที่ศึกษาหาข้อมูลไปก่อนจะซื้อตั๋วฟุตบอล และก่อนเดินทางไป ทำให้เรามั่นใจในระดับนึงว่ามีการส่งตั่วแน่ๆ
ในขณะที่หลานคนเลือกใช้บริการทัวร์ แล้วทัวร์นั้นเจอวิกฤติ ทำให้ผลกระทบกับลูกทัวร์ อันนี้เป็นเรื่องสุดวิสัยที่เราคาดเดาได้
ดังนั้น ไม่ว่าจะซื้อตั๋วไปเอง หรือ ไปกับทัวร์ ให้เช็ครายละเอียด ข้อมูล ศึกษาให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจครับ จะช่วยให้เราปลอดภัยมากขึ้น
9. กลัวมิจฉาชีพ
ที่อังกฤษ ไม่ได้แต่มีคนอังกฤษอาศัย มีคนจากทั่วโลกเข้ามาทำงานและอาศัย เราอาจจะเคยได้ยินข่าวว่า มีคนไทยโดนจี้ โดนขโมย ซึ่งทำให้เรารู้สึกกังวลและกลัวการไปที่อังกฤษได้
แต่อย่างที่บอกมาตลอดว่า การเตรียมตัวและระวังตัวก็สำคัญ นะครับ ไม่โชว์ของมีค่าในที่สาธารณะ กระเป๋าเลือกใช้ใบเล็กๆ หรือสะพายหลังที่ปิดมิดชิด หรือ มีช่องใส่ธนบัตรภายในเสื้อโค้ต และคอยสังเกตุพฤติกรรมของคนรอบตัว ในขณะที่อยู่ที่นั่น ก็ช่วยได้ครับ
10. อาหารไม่ถูกปาก
ปัญหาใหญ่ของการเดินทางไปต่างประเทศเลยครับ ถ้าคนกินง่ายก็ไม่ค่อยมีปัญหาครับ ขนมปัง โยเกิร์ต ไส้กรอก แฮม เบค่อน เฟรนซ์ฟราย อันนี้อาหารหลักที่อังกฤษครับ
วันแรกๆไปถึงอาจไม่ใช่ปัญหา เช้าทานอาการโรงแรม กลางวันเดินเข้าซูเปร์มาร์เก็ตที่นั่น เย็นหาร้านนั่ง ก็สนุกดี
แต่พอเข้าวันที่สาม ความเบื่อจะตามมาและโหยหาอาหารไทย ร้านอาหารไทยที่อังกฤษก็มีนะครับ แต่รสชาติอาจไม่เต็ม 100 เหมือนที่ไทย เพราะ เครื่องปรุงบางอย่าง รัฐบาลอังกฤษเขาห้ามนำเข้าครับ
ผมแนะนำว่าเตรียมเสบียงจากไทยไปก็ดีนะครับ เช่น อาหารซองพร้อมทาน มาม่าถ้วย ขนมขบเคียวเล็กน้อย ทำให้เราเที่ยวดูบอลอย่างสนุกสนามและมีความสุขที่สุดครับ
หากชอบช่วยกดถูกใจ หากเห็นมีประโยชน์ฝากกดแชร์ให้หน่อยนะครับ
แอดมินเฟรน เรียบเรียง
