สตีเว่น เจอร์ราร์ด เรนเจอร์ส กับภาระกิจพาทีมคว้าแชมป์ลีกครั้งแรก
หลังจาก Glasglow Rangers เปิดบ้านถล่มทีม Ross County ผู้มาเยือน เละเทะ 5-0 เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา
ทำให้ เดอะ ไลท์บลูส์ ยักษ์หลับแห่งลีกสก็อต ทำสถิติ แข่ง 25 นัด ชนะ 22 เสมอ 3 ยังไม่แพ้ใคร กดไป 65 ลตุง เสียแค่ 7 ประตูนำจ่าฝูงอย่างต่อเนื่องยาวๆ และทิ้งห่างทีมอันดับที่สองอย่าง กลาสโกลว์ เซลติก ถึง 23 คะแนน แม้ว่าเซลติกจะแข่งน้อยกว่า 3 เกมก็ตาม
จากสถิติในลีก เหล่าแฟนบอลชาวไทยอาจะคิดว่า ก็ลีกสก็อตแลนด์ แข่งกันแค่ 2 ทีมนี่นา แต่ทว่า พอมาดูสถิติในบอล ยูโรปาลีกในฤดูกาล 2020-2021 ประกอบไปด้วย จะเห็นว่า กลาสโกลว์ เรนเจอร์ เข้ารอบด้วยการเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มD ด้วยสถิติ ชนะ 4 เสมอ 2 ยิง 13 เสีย 7 เหนือ ทีมเบนฟิก้า จากโปรตุเกส ที่เข้ามาเป็นอันดับ 2
ผลงานทั้งหมดนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงข้ามคืน แต่ทั้งหมดต้องยกเครดิตให้กับเขาผู้นี้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด
เจอร์ราร์ด เข้ามาคุม เรนเจอร์ ตั้งแต่ปี มิถุนายน 2018 โดยเซ็นต์สัญญาไว้ 4 ปี
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของเรนเจอร์ส” สตีเว่น เจอร์ราร์ดเผยผ่านเว็บไซต์ของสโมสร
“ผมให้ความนับถือสโมสรรวมไปทั้งประวัติศาสตร์และประเพณีของทางสโมสรแห่งนี้อย่างยิ่ง”
“ผมรอไม่ไหวแล้วที่จะเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่กับเรนเจอร์สซึ่งพวกเขาตั้งเป้าหมายที่จะประสบความสำเร็จกับสโมสรแห่งนี้”
ถึงแม้ เจอร์ราร์ด จะเคยมีประสบการณ์คุมทีมเยาวชนชุดอายุ 18 ปี ของ Liverpool มาบ้าง แต่การคุม เรนเจอร์ ซึ่งเป็นการคุมทีมอาชีพอย่างเป็นทางการนั้น คือสิ่งที่แตกต่างออกไป เรนเจอร์ เป็นทีมที่มีประวัตศาสต์ แฟนบอลเหนียวแน่น และ เข้ามาชมเกมส์เกือบเต็มความจุในทุกๆนัดที่ทีมลงแข่ง
ในปีแรกที่เรนเจอร์ เจอร์ราร์ด มีแกรี่ แม็คอลิสเตอร์ อดีตดาวเตะลิเวอร์พูล เป็น ผู้ช่วยในการคุมทีม เรนเจอร์จบที่อันดับ 2 ตามหลังเซลติก 9 แต้ม ส่วนถ้วยยุโรป ยูโรปาลีกตกรอบแบ่งกลุ่ม
ในปีต่อมา ด้วยสถานการณ์โควิด19 การแข่งขันต้องตัดจบกลางคัน ทีมของเจอร์ราร์ด ยังทำได้แค่อันดับ 2 ของลีก แต่ในบอลถ้วยยุโรป ยูโรปาลีกทะลุเข้าถึงรอบน็อคเอาท์ แต่ตกรอบ 16 ทีมด้วยการแพ้ เลเวอร์คูเซ่น จากเยอรมัน
แต่ในฤดูกาล 2020-2021 ฟอร์มของเรนเจอร์ แตกต่างจาก 2ปี แรกที่เจอร์ราร์ด เข้ามาคุมทีมโดยสิ้นเชิง เรียกได้ว่า
“สะเด่าไปเลยไอ้น้องงงงง” (เสียงเฮีย บอบู๋)
หลังฉลองการคุมทีม นัดที่ 150 ด้วยการถล่ม Ross County ไป 5-0 แบบยังไม่แพ้ทีมใด โอกาสเป็นแชมป์ลีกครั้งแรก ก็สดใสขึ้นมาทันที
เจอร์ราดด์วางระบบการเล่น 4-2-3-1 คล้ายๆกับระบบของ แมนซิตี้ ที่มีกองหน้าธรรมชาติ 1 ตัว และมี ตัวช่วยในเกมส์รุกอีก 3 คน วางมิดฟิลด์ ตัวกลาง 2 ตัว ค่อน รุกและรับ สลับกัน
ดาวเตะที่โดดเด่นในชุดนี้ ก็มี
อัลเฟรโด้ โมเรโรส กองหน้าตัวจบสกรอ์วัย 24 ปี จากโคลัมเบียร์
ไรอัน เค้นท์ ปีกซ้าย อดีตเยาวชนของLiverpoolวัย 24 ปี ที่ เจอร์ราร์ด ไปดึงตัวมา
ตัวรุกดาวรุ่งอีกคนคือ ยานิส ฮาจี้ (ลูกชายของ จอร์จี้ ฮาจี้ ตำนานดาวเตะทีมชาติโรมาเนีย) ในตำแหน่ง เพลย์เมคเกอร์
ประกอบกับยังมีตัวเก๋า อดีตดาวยิงทีมชาติอังกฤษ อย่าง เจอร์เมน เดโฟ อีกด้วย
เรียกได้ว่า ส่วนใหญ่ในทีมคือ พลังหนุ่ม ที่กำลังห้าว ดุดัน พร้อมจะพาทีมคว้าแชมป์แรกในรอบหลายปี
สตีเว่น เจอร์ราร์ด ทำสถิแรกของตัวเอง ด้วยการคุมทีมเรนเจอร์ ครบ 150 นัดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร ที่ 926 วัน แซง ดิ๊ค อัคโวคาท อดีตผู้จัดการตำนานของทีม ที่ 927 วัน
และ จากอันดับบนตาราง สก็อตติช พรีเมียร์ลีกล่าสุด ถ้าฟอร์มยังคงเส้นคงวาขนาดนี้ อาจได้เห็นเรนเจอร์ ของสตีเว่น เจอร์ราร์ด ได้ลุ้นมากกว่า 1 แชมป์ในฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน
เจอร์ราร์ด ถูกมองว่าจะเป็นผู้มาสานต่อ ทีมLiverpool หลัง เยอร์เก้น คล็อปป์ จะอำลาทีมไปในปี 2024
เอาเป็นว่า ก่อนจะถึงวันนั้น แฟนบอล Liverpool คงเอาใจช่วยให้เจอร์ราร์ด เก็บเกี่ยวรางวัล และประสบการณ์จากลีกสก็อต มาให้ได้มากที่สุด ก่อนที่จะกลับมาอยู่กับบ้านอันอบอุ่นอย่าง Liverpool ในอนาคต
ขอบคุณครับ
แอดมิน เฟรน เรียบเรียง