รีวิว ไปดูบอล แมนเชสเตอร์ดาร์บี้ ที่เอติฮัด สเตเดี้ยมด้วยตั๋ว Hospitality Brasserie Abode Hotel
ศึกแห่งศักดิ์ศรีเมืองแมนเชสเตอร์ ส่งท้ายปี 2019 ในรอบนี้เป็นเกมที่ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ด้วยความที่เป็นเกมดาร์บี้แมทช์ ความต้องการตั๋วจึงมีมาก ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะซื้อตั๋วแบบ hospitality เพื่อความสะดวก ในการเลือก 7 ที่นั่งติดกัน คิดเป็นเงินไทยก็ราวๆใบละหมื่นห้าบวกๆ
โดยทั่วไป ตั๋ว hospo (ฝรั่งเรียกสั้นๆ) ของแมนฯ ซิตี้ จะมีเฉพาะในสนามไม่ว่าจะนั่งเลาจ์น หรือ ห้องอาหาร แต่เกมนี้มีการเปิดรอบพิเศษ ให้รับประทานอาหารที่โรงแรม แล้วมีรถรับส่งจากซิตี้เซ็นเตอร์ไปสนาม
แพ็คเกจนี้ต้องมารับตั๋วที่โรงแรม Abode ในย่าน Manchester Piccadilly ตอน 14.00 น.
เริ่มต้นโดยการลงทะเบียน จากนั้นเจ้าหน้าที่ทำการแจกหนังสือโปรแกรมฟรี และเหรียญ token เพื่อใช้แลกเครื่องดื่ม ก่อนที่จะพาเราไปที่โต๊ะรับประทานอาหารที่จัดไว้
สำหรับวันนี้จะมีอาหารบริการ 3 คอร์ส เริ่มที่เมนูสตาร์ทเตอร์ เมนคอร์ส และของหวาน ส่วนเครื่องดื่มได้คนละ 4 แก้ว สามารถเรียกบริกรแล้วจ่ายด้วย token 1 เหรียญต่อ 1 แก้ว
ส่วนตัวอาหารมื้อนี้อร่อยใช้ได้เลยครับ (ส่วนตัวคิดว่า อร่อยของลิเวอร์พูล 555)
ขณะทานอาหาร ผมแอบแปลกใจเล็กน้อย ว่า ทำไมไม่มีใครใส่เสื้อบอลมาเลย ส่วนใหญ่แต่งตัวหล่อสวย แบบภูมิฐานกันมาทั้งนั้น เลยเปิดอ่านเมลอย่างละเอียด ก็ทราบว่า สโมสรห้ามใส่ชุดกีฬานั่นเอง แต่ผมก็เลยตามเลยนะ เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ว่าอะไร (คราวหน้าต้องเช็คดีๆกว่านี้ แบบว่า แอบเด๋อเลยเรา)
เมื่อถึงเวลา 16.00 น. มีรถบัสมารับที่หน้าโรงแรมเลย ใช้เวลาเดินทางไปสนามครึ่งชั่วโมง เมื่อลงรถแล้ว เดินต่ออีก 10 นาทีก็ถึงสเตเดี้ยม จากนั้นตรวจตัวแล้วสแกนตั๋วเข้าสนาม วันนี้นั่งอยู่ block 109 ริมสนาม โซนเจ้าถิ่น แต่ใกล้กับกองเชียร์ปีศาจแดง ทำให้ซึมซับบรรยากาศแบบดิบๆเถื่อนๆ ของเกมแห่งศักดิ์ศรีได้แบบเต็มที่เลย
เพื่อนสมาชิกที่ติดตามมาด้วย ดูมีความสุขมากเพราะได้เห็นนักเตะตัวเป็นๆ ชัดเกินความคาดหมาย โดยเฉพาะ ราฮีม สเตอร์ริ่ง โฉบมาทางกราบซ้ายอยู่บ่อยครั้งในครึ่งแรก ขณะที่ครึ่งหลังจะเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด
ความเดือดของเกมนี้มาเกิดช่วงครึ่งหลัง ขณะนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด นำอยู่ 2-0 แล้วได้ลูกเตะมุม เฟร็ด พยายามดึงเวลา ไม่ยอมเล่น ทำให้แฟนบอลเจ้าถิ่นโห่ จนกระทั่งมีการปาเหรียญใส่ พร้อมกับมีแฟนบอลจอมซ่าคนหนึ่งทำท่าลิง เหยียดผิว ซึ่งต่อมากลายเป็นข่าวใหญ่ สุดท้ายโดนตำรวจซิว และสโมสรแบนตามระเบียบ
เหตุการณ์นี้ผมเห็นทุกช็อต เรียกว่า ทำเลพอเหมาะพอเจาะเลยครับ ต้องชม เควิน เดอ บรอยน์ ด้วยที่เข้ามาปรามแฟนบอลตัวเอง ไม่งั้นคงเดือด จนไม่ได้เล่นต่อเป็นแน่
ท้ายเกมซิตี้ได้ประตูตีไข่แตก แต่ก็ไล่ไม่ทัน ทำให้แพ้คาบ้าน 1-2 หลังสิ้นเสียงนกหวีด นักเตะปีศาจแดงเดินมาขอบคุณแฟนบอลที่ตามมาเชียร์ ส่วนแฟนซิตี้ทะยอยกลับกันอย่างไว
ความแสบของ สก๊อต แม็คโทมิเนย์ กองกลางดาวรุ่งแมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่หมด ขณะเดินไปหากองเชียร์เร้ดเดวิล เจ้าหนูรายนี้ขอแถม เตะบอลอัดป้ายโฆษณาข้างสนามที่แฟนซิตี้อยู่ซะงั้น แถมหัวเราะเยาะ จุ๊บตราสโมสรโชว์ เรียกเสียงโห่ แจกกล้วย แจกฟัก ได้กระหึ่มเลยครับ 555
จากนั้นผมจึงเดินกลับไปที่จอดรถบัสเพื่อขึ้นรถกลับเข้าเมือง ขากลับรถติดมากเลยครับ ใช้เวลามากกว่าตอนมาเสียอีก
สรุป การใช้บริการตั๋ว Hospitality ของแมนฯ ซิตี้ แพ็คเกจ Brasserie Abode Hotel ในครั้งนี้ผมว่า ในส่วนของการจัดการของโรงแรม ยังไม่ดีนัก พนักงานบริการในห้องอาหารมีน้อย เสิร์ฟอาหาร เครื่องดื่มมั่วซั่วไปหมด แถมช้าอีกต่างหาก แต่ข้อดีก็มี คือ อาหารอร่อย วัตถุดิบดี
มีรถบัสรับส่ง ซึ่งสะดวกมาก ไม่ต้องไปแย่งขึ้น Tram ที่คนแน่นอัดเป็นปลากระป๋อง ขณะที่ทำเล Block 109 ซึ่งเป็น Long Lower ถือว่า ยอดเยี่ยม เห็นนักเตะชัดเจน นั่งขอบสนาม
ฤดูกาลนี้ผมยังมีตั๋ว Hospitality ของแมนฯซิตี้ อีก 2 เกม ซึ่งเป็นแพ็คเกจที่แตกต่างออกไป เอาไว้ไปดูแล้วจะเอามาเล่าให้ฟังกันอีกครับ
#ไปดูบอล