เมื่อตอนก่อนได้พูดถึง สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อตั๋วดูฟุตบอลยูโร 2020 เอาไว้แล้ว แต่สิ่งที่ต้องมีคือ “ดวง” ถึงจะสามารถได้ตั๋วในราคาทุนได้ ใช่ว่า เราอยากดูเกมไหนก็ซื้อได้ตามใจชอบ เพราะคนที่อยากดูในโลกนี้ก็มีหลายล้านคน ดังนั้นจึงต้องมีการสมัครซื้อตั๋ว เพื่อลุ้นจับสลากอีกที
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อยกเว้นสำหรับผู้ที่ซื้อตั๋ว VIP หรือ เรียกว่า Hospitality Package โดยทางยูฟ่าได้เปิดขายแพ็คเกจนี้แล้วเช่นกัน มีแบ่งขายเป็นเกม และขายเหมาทุกเกมที่จัดแข่งที่สนามนั้นๆ
โดยสิทธิพิเศษของตั๋วประเภท Hospitality หลักๆ เบื้องต้นจะมี
- ตั๋วชมเกม
- สามารถเข้าไปนั่งรอในเลาจ์น หรือ ห้องสูท ได้ก่อนเริ่มเกม 3 ชั่วโมง และอยู่ได้อีก 90 นาที หลังจบเกม
- บริการอาหาร เครื่องดื่ม รวมทั้งเบียร์ และไวน์
- ฟรีไวไฟ และจอทีวี
แพ็คเกจเริ่มต้นอาหารจะเป็นบุฟเฟ่ต์ ทำเลที่นั่งเป็นมุมสนาม หรือ หลังโกล ส่วนแพ็คเกจที่แพงขึ้น ทำเลที่นั่งอยู่กลางสนาม อาหารจะเป็นคอร์สจากเชฟที่คัดสรรมาอย่างดี ห้องสูทหรูหรากว่า มีการแสดงให้ชม มีของที่ระลึก มีโอกาสได้กระทบไหล่ตำนานนักเตะระดับโลก เป็นต้น
ผมลองเช็คแพ็คเกจนี้ที่มิวนิค ประเทศเยอรมนี พบว่า ราคาตั๋ว Hospitality แบบนัดเดียวจะขาย ใบละ 1,500 ยูโร จะได้ตั๋ว CAT 1 อาหารดินเนอร์ พร้อมเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ ส่วนใบละ 1,900 ยูโร ได้นั่งห้องสูทส่วนตัว แต่ทำเลอยู่มุมสนาม พร้อมดินเนอร์อาหาร แบบ Fine Dining จากเชฟคุณภาพ และมีส่วนบริการเสริมอื่นๆเพิ่มเติม
ขณะที่ตั๋วแบบเหมา รอบแบ่งกลุ่ม 3 นัด และรอบ 8 ทีมสุดท้าย รวม 4 เกมจะขายที่ 3,200, 4,400, 5,600 และ 7,500 ยูโร ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยก็จะต่างกันไปตามราคา
ขณะที่แพ็คเกจ Hospitality ที่สนามเวมบลีย์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งแข่ง 7 เกม รอบแบ่งกลุ่ม, รอบ 16 ทีมสุดท้าย, รอบรองชนะเลิศ 2 นัด และรอบชิงชนะเลิศ
ตั๋วแบบนัดเดียวจะเริ่มที่
1,500 ยูโร ในรอบแบ่งกลุ่มและรอบ 16 ทีมสุดท้าย
2,800 ยูโร รอบรองชนะเลิศ
5,200 ยูโร รอบชิงชนะเลิศ
ส่วนแบบเหมา 7 เกม ราคาอยู่ระหว่าง 6,800-23,200 ยูโรต่อใบ (ประมาณ 238,000-812,000 บาท)
ถ้าไม่อยากจะลุ้นจับสลาก ตั๋ว Hospitality เป็นตัวเลือกหนึ่งครับ ตอนนี้สามารถซื้อกันได้เลยที่เว็บยูฟ่า www.uefa.com การันตีได้ดูฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 อย่างแน่นอนครับ แต่ก็ต้องยอมจ่าย สำหรับประสบการณ์แบบพิเศษสุดๆในชีวิต