Messi Ronaldo เมื่อ 2 เทพแห่งยุคโรยรา ใครคือคนที่มาแทน??
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา
Cristiano Ronaldo และ Lionel Messi คือสองสตาร์บนโลกลูกหนัง ที่ใครๆต่างยกย่องว่านี่คือสุดยอดแข้งทองในยุคนี้
ในปี 2007 ในการประกาศ Ballon d’Or trophy
ทั้ง Ronaldo และ Messi มีชื่อติดลำดับที่ 2 และ 3 เป็นครั้งแรก เป็นรองเพียง Kaka ซุปเปอร์สตาร์ลูกหนังในยุคนั้น
ก่อนที่ในปี 2008 รางวัล Ballon d’Or trophy จะตกเป็นของ Ronaldo และ Messi ได้ที่ 2
ปี 2009 -2012 กลายเป็น Messi คว้ารางวัล นี้ 4 ปีรวด ในขณะ Ronaldo ได้ที่ 2 ไปสามครั้งใน 4 ปี
ถัดมาปี 2013 – 2014 Ronaldo กลับมาคว้ารางวัล 2 ปีซ้อน ในขณะที่ Messi ตกไปเป็นที่ 2 ทั้ง 2 ครั้ง
ปี 2015 Ballon d’Or trophy กลับมาเป็นของ Messi อีกครั้ง และ Ronaldo ได้ที่ 2
ต่อมา ปี 2016 – 2017 Ronaldo ก็กลับมาคว้ารางวัล 2 ปีซ้อน ในขณะที่ Messi ตกไปเป็นที่ 2 ทั้ง 2 ปี
ปี 2018 มีผู้มาท้าชิงและคว้ารางวัลนี้ไปนั่นคือ Luka Modrić ที่พาโครเอเชียคว้ารองแชมป์โลก แต่ Modric ก็อยู่ในช่วงโรยราแล้วเช่นกัน
ปี 2019 Messi กลับมาคว้ารางวัลอีกครั้ง โดนเฉือน Virgil van Dijk แบบฉิวเฉียดและ Ronaldo ได้ที่ 3
รวมแล้ว Messi คว้า บัลลงดอร์ ไป 6 ครั้ง และ Ronaldo 5 ครั้ง จาก 12 ปีหลังสุด
ปัจจุบัน บนโลกลูกหนัง ไม่มีใครมีผลงานที่โดดเด่นไปมากกว่าสองคนนี้ ถึงแม้ว่าในแต่ละปีจะมีคนที่สอดแทรกเข้ามาแต่ก็เป็นเพียงม้ารองเท่านั้น มีเพียง Modric ที่แทรกมาได้ในปี 2018
Messi คือนักเตะแห่งพรสวรรค์ อย่างแท้จริง
Ronaldinho ซุปตาร์รุ่นพี่ในถิ่น คัมป์ นู เคยชี้ให้ โคบี้ ไบรอัน นักบาสเกตบอล NBA ดู Messi ในวัย17ปี ในระหว่างทีม Barcelona ไปทัวร์ สหรัฐอเมริกา ในช่วงปี 2003-2004 ว่า
“โคบี้นายเห็นเจ้าหนูนั่นไหม ดูไว้ นี่ละซุปเปอร์สตาร์ในอนาคต”
ถ้า Messi คือ สุดยอดนักเตะพรสวรรค์ ในมุมกลับกัน Ronaldo คือ สุดยอดนักเตะแห่งพรแสวง
Ronaldo เคยเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตาในต้นยุค 2000 และได้ถูกฟูมฟัก โดยปรมาจารย์ลูกหนังอย่าง เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ซื้อตัวเขามาจาก สปอร์ตติ้ง ลิสบอน ในปี 2003
ท่านเซอร์ อเล็กซ์ ประทับใจในตัว Ronaldo มากในช่วงครึ่งแรกของเกมกระชับมิตรปรีซีซั่น ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ สปอร์ตติ้ง ลิสบอน
จนเขาต้องโทรศัพท์หา ปีเตอร์ เคนยอน หัวหน้าผู้บริหารของทีมตอนนั้น ในช่วงระหว่างช่วงพักครึ่งเวลา เพื่อให้แน่ใจว่าโรนัลโด้จะกลับมาที่แมนเชสเตอร์พร้อมทีมของเขาได้
มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถคาดเดาได้ในเวลานั้นว่าโรนัลโด้วัย 18 ปีจะกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมตลอดกาล
เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนผ่าน 2 สตาร์ลูกหนังเริ่มโรยรา อาการบาดเจ็บเริ่มมีให้เห็น การลงเล่นที่วิ่งไม่ได้สุดตลอดทั้งเกมส์
สิ่งที่แฟนบอลทั่วโลกคิด นั่นคือ ใครล่ะ? ที่จะมีโอกาสขึ้นมาแทนที่
Kevin De Bruyne
สตาร์ทีมชาติเบลเยี่ยมจากสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คือชื่อแรกที่ผมเองนึกถึง
ฤดูกาล 2015–16 De Bruyne ได้ย้ายจากโวล์ฟบวร์ก มาสู่แมนเชสเตอร์ซิตีในพรีเมียร์ลีกด้วยค่าตัว 55 ล้านปอนด์
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นี่คือนักเตะที่ฟอร์มโดดเด่น ทั้งยิง ทั้งจ่าย และมีส่วนช่วยทีมเรื่อใบสีฟ้า คว้าแชมป์มากมายในตลอดช่วงเวลาที่เขาอยู่กับทีม ถึงแม้จะมีอาการบาดเจ็บเล่นงานบ้าง แต่เมื่อเขาอยู่ในสนาม ลูก Killer Pass สวยๆ รวมถึงลูกยิงจากแถว 2 มีให้เห็นบ่อยครั้ง
ถ้าในปี 2020 De Bruyne พาทีมเรือใบสีฟ้า คว้าแชมป์ Uefa Champion League ได้สำเร็จ อาจเป็นการบอกโลกลูกหนังว่า ยุคต่อไปคือยุคของเขาก็เป็นได้
Kylian Mbappe
Golden Boy จาก World Cup2018 จะมีสักกี่คนที่คว้าแชมป์โลกและมีส่วนร่วมกับทีมในวัยไม่ถึง 20 ปี Mbappe คือคนคนนั้น
จากฟอร์มอันร้อนแรงและน่าจับตา ทำให้ สโมสร ปารีส แซงแชร์แม็งต์ ยอมจ่ายค่าตัว 120 ล้านยูโร เพื่อพา Mbappe เข้ามาอยู่ในอ้อมอก
ฤดูกาลล่าสุด Mbappe ลงเล่นทุกรายการ 34 นัด ซัดไป 30 ประตู โอโฮ อะไรจะขนาดนั้น
แต่สิ่งหนึ่งที่ Mbappe ต้องพิสูจน์ความเป็นสตาร์ของตนเองก็คือ พาต้นสังกัดเป็นจ้าวยุโรปให้ได้ และออกไปหาความท้าทายใหม่ๆให้กับตนเอง ในลาลีก้า หรือ พรีเมียร์ลีก ให้ได้
Paul Pogba
กัปตันทีมชาติฝรั่งเศส ที่พาทีมคว้าแชมป์โลกมาแล้ว Pogba คือมิดฟิลด์พรสวรรค์สูง มีแชมป์การันตีทั้ง กัลโช่ เซเรียอา แชมป์โลก แต่ที่ป๊อกบายังขาดคือ ถ้วยแชมป์ยุโรป
ไม่มีใครปฏิเสธ ความสามารถของ Pogba แต่ที่ยังค้างคาใจคือ ความติสต์และฟอร์มอันสม่ำเสมอของ Pogba ซึ่งถ้าเขาเองได้มีคนที่เล่น เคียงข้าง คู่หูที่รู้ใจ เซนส์บอลทันกัน บอกได้เลยว่า Pogba คือ มิดฟิลด์เบอร์ 1 ของโลกเลยก็ว่าได้
Raheem Stering
หลัง เป็ป กวาดิโอล่า เข้ามากุมบังเหียนของ แมนซิตี้ เขาได้ปั้น Stering เป็นสุดยอดผู้เล่นริมเส้น
นี่คือผู้เล่นคีย์แมนของทีมชาติอังกฤษและแมนซิตี้ ด้วยฟอร์มอันร้อนแรงกับเรือใบ ลงเล่น 164 นัด ซัดไป 68 ประตู คว้าแชมป์ในประเทศมาแล้วทุกรายการ ขาดแค่เพียงแชมป์ยุโรป
ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ฟอร์มของ Stering ไปเข้าตาทีมอย่างราชันชุดขาว ซึ่งกำลังรอจังหวะที่จะกระชากตัวไปจากอ้อมอกของ แมนซิตี้ ในไม่ช้า
Neymar
ซุปเปอร์สตาร์เบอร์ 1 ของทีมชาติบราซิล จริงๆแล้ว Neymar เป็นนักเตะพรสวรรค์อีกคนนึงของโลกลูกหนัง ถึงแม้ Neymar จะคว้าแชมป์มากมายกับ บาร์เซโลน่า แต่ที่ ปารีส เขาดูไม่ค่อยมีบทบาทสำคัญมากสักเท่าไร
ด้วยภาพลักษณ์ที่ชอบออกสื่อ ชอบปาร์ตี้ และ แท็กติคการเล่นส่วนตัวที่ดู ตุกติก ทำให้คะแนนความสามารถของ Neymar ดูลดลงไปพอสมควร อีกทั้ง การที่เจ้าตัว ย้ายจาก บาร์เซโลน่า มาอยู่กับ เปแอสเช ทำให้เกิดคำถามในตัวของ Neymar ว่า อะไรคือความท้าทายของเขา รายได้หรือถ้วยรางวัล
Jordon Sancho
ว่าที่ดาวรุ่งตัวรุกที่ค่าตัวแพงที่สุดของปีศาจแดง (ถ้าเซ็นมาได้) นี่คือดาวรุ่งของทีมชาติอังกฤษ จากเยาวชนของ แมนซิตี้ ตัดสินใจย้ายไปสร้างชื่อกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยฟอร์มลงเล่น 115 นัด ยิงไป 59 ประตู รวมทุกรายการ
แต่สิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่งคือ ถ้วยรางวัล Sancho ยังไม่มีถ้วยรางวัลเป็นชิ้นเป็นอันที่จะเป็นตัวช่วยผลักดันความเป็นสตาร์ของเขาเองในอนาคต ดังนั้น การย้ายทีมครั้งต่อไปคือ บทพิสูจน์ ของ Sancho ว่าเขาจะพาต้นสังกัด คว้าแชมป์ได้หรือไม่??
Edan Hazard
ตัวรุกพรสวรรค์สูงอีกคนของทีมชาติเบลเยี่ยม การตัดสินใจย้ายจาก เชลซีไปอยู่กับรีล มาดริด เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างโปรไฟล์ ให้กับตัวเองนั้น เหมือนจะยังไม่ลงตัวเท่าไร ส่วนนึงมาจากอาการบาดเจ็บ
ในปีแรก Hazard ถูกจับไปเล่นกองหน้าฝั่งขวา มากกว่าจะเป็นกองกลางตัวรุกที่ตัวเองถนัด ทำให้ฟอร์มดูแผ่วลงไป แต่ถึงกระนั้น ด้วยจุดเด่นด้านการเล่นแบบสร้างสรรค์ ความเร็ว และความสามารถพิเศษ และได้รับการกล่าวว่าเป็น “กองกลางตัวรุกที่สามารถเปลี่ยนเกมด้วยการเลี้ยงลูกฟุตบอล”
ถ้า Hazard ค้นหาฟอร์มของตนเองเจอ อาจเป็นฝันร้ายของกองหลังฝั่งตรงข้ามก็เป็นได้
Mohamhed Salah
หากจะเลือกนักเตะจากทางแอฟริกาสักคน เป็นที่ลังเลระหว่าง Sadio Mane และ Mohahe Salah
แต่จากฟอร์มการเล่น ที่ช่วยให้ทีม Liverpool คว้าแชมป์ทั้ง Uefa Champion League ในปี 2018-19 และ Premier League 2019-20 รวมถึงดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก 2 สมัย และนอกจากนั้น Salah ยังได้รับรางวัล 1 ในบุคคลที่เป็นผู้ทรงอิทธิพล 100 อันดับแรกของโลกในปี 2019 จากนิตยสารTime อีกด้วย เป็นการการันตีความสามารถส่วนนึงของ Salah ได้เลยทีเดียว
แต่สิ่งที่เป็นคำถามคือ ความสม่ำเสมอและการทำประตู หลายๆครั้ง Salah มีโอกาสมากมายในการยิง แต่ปรับเปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้ ทำให้ยังมีข้อกังขาเล็กน้อย
ซึ่ง ถ้า Salah จะขึ้นแท่นเป็นสตาร์ที่มาแทน Ronaldo และ Messi นั้นต้องแสดงศักยภาพของตนเองและความสม่ำเสมอ พาทีมต้นสังกัดLiverpool คว้าแชมป์ให้ได้มากกว่านี้
Earring Braut Haaland
เจ้าหนุ Haaland เลือกมาอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ เพราะต้องการพัฒนาฟอร์มการเล่นให้เข้าที่เข้าทางก่อนไปซบทีมที่ใหญ่กว่า
ตอนย้ายมาลงเตะเป็นตัวสำรอง 2 นัด เวลาอยู่ในสนาม 59 นาที โอกาสยิง 6 ครั้ง ทำได้ 5 ประตู
โอ้โฮ นี่คือว่าที่ สตาร์ลุกหนังอีกคนนึง และด้วยวัยเพียง 20 ปี ทำให้เป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เพราะการที่ Haaland เลือกที่จะพัฒนาอย่างเป็นสเต็ป ทำให้เจ้าหนู Haaland เป็นอีกคนที่กูรูหลายสำนัก ฟันธงดูว่าจะกลายเป็นสตาร์ที่คว้ารางวัลในอนาคตเหมือนกัน
นอกจาก 9 ผู้เล่นที่เอ่ยถึงไปแล้ว ยังมี นักเตะชื่อดังอีกหลายคนที่มีโอกาสขึ้นแท่นเป็น สตาร์ดัง แทนที่ Ronaldo และ Messi ด้วยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น Virgil van dijk , Christian pulisic , Kai Harvertz , Bruno Fernandez , TImo Werner , Phil Foden , Trent Alexanser Arnold , Marcus Rashford , Harry Kane
เพื่อนๆล่ะครับ คิดว่าใครจะขึ้นมาเป็น สตาร์ที่ทดแทน Ronaldo และ Messi ขอคอมเม้นท์หน่อย
หากชอบ บทความนี้ รบกวน กดเม้นท์ กดไลค์ กดแชร์ เป็นกำลังใจให้กันหน่อยนะครับ
ขอบคุณครับ
——————————————————
สอบถามตั๋วฟุตบอลอังกฤษ แบบ VIP Hospitality โปรแกรมแข่งขัน โปรแกรมเดินทางไปดูบอลกับเรา
ผู้ใช้สามารถเพิ่มบัญชี “gotostadiums” เป็นเพื่อนได้ด้วยการ
คลิกลิงก์นี้ https://lin.ee/pERlrPD
ได้ที่ Line : @gotostadiums
Website : https://gotostadiums.com/
Fanpage :
https://www.facebook.com/gotostadium
ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวเลขที่ 21/00692