ทริปนี้บอกได้เลยว่า ผมไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน เป็นการไปดูบอลแบบปุบปับสุดๆ เพราะตัดสินใจก่อนบอลเตะเพียงแค่ 1 วัน !
เริ่มมาจากการเปิดดูทวีตเตอร์ เลื่อนๆไป อ่าวเฮ้ย! เนย์มาร์ , บ๊อบบี้ เฟอร์มีโน่ , คูตินโญ่ และ ทีมชาติบราซิล อยู่ที่สิงคโปร์
แล้วมีเกมอุ่นเครื่องกับทีมไหนหว่า ก่อนหน้านี้ ทีมชาติไทยเคยมีข่าวว่าจะเตะกับทัพแซมบ้า สุดท้ายก็ยกเลิก ผมหาข่าวอ่านต่อ เกมนี้บราซิลจะพบกับเซเนกัล ที่จัดตัวมาชุดใหญ่เช่นกัน นำทีมโดย ซาดิโอ มาเน่, คาลิดู คูลิบาลี่ และ กาน่า เกย์
เห็นรายชื่อแบบนี้แล้ว ประกอบกับ 2-3 วันนี้ว่างจากงานพอดี เลยเข้าเว็บจองตั๋วบอลก่อนเลย ที่
sporthubtix.avenue.asia ได้ตั๋วมาในราคา 99 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 2,200 บาท) นั่ง CAT GOLD ทำเลด้านยาวสนาม แต่ไม่กลางมาก ดูจาก ผังถือว่าใช้ได้ และเลือกปริ้นท์ตั๋วเองจากที่บ้านเลย
จากนั้นค่อยจองตั๋วเครื่องบิน และที่พัก จองทุกอย่างเสร็จ 3 ทุ่ม อีกวันต้องไปสนามบินตี 5
ทริปนี้ใกล้ๆไม่ต้องเตรียมอะไรมาก แค่ 3 วัน 2 คืน
บินไม่นานก็ถึงเมืองสิง ผมไม่ได้ไปสิงคโปร์นานแล้ว รอบสุดท้ายที่มาเกือบๆ 10 ปี พอมาถึงก็จะงงๆ ใช้เวลาจับทิศจับทางนิดหน่อย เริ่มต้นด้วยการไปซื้อ sim card สำหรับใช้อินเตอร์เน็ต เพื่อความอยู่รอด
หาซื้อได้ที่บูธในเทอมินอลแถวนั้นเลย มีหลายเจ้า ผมซื้อของ starhub ราคา 38 ดอลลาร์ (ประมาณ 826 บาท) มีเน็ตให้ 100 GB !!!
แอบคิดอยู่ว่า จะใช้ยังไงให้มันหมด 555
เมื่อได้ sim มือถือแล้วก็ถึงคิวซื้อพาส ผมเลือก Singapore Tourist Pass แบบ 3 วัน สามารถเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะได้ทุกแบบไม่จำกัดครั้ง ทั้ง MRT หรือ รถเมลล์ ราคา 30 ดอลลาร์ (ประมาณ 660 บาท) ขากลับสามารถเอามาคืนที่ Ticket Office จะได้เงินประกันคืน 10 ดอลลาร์ เท่ากับว่าจริงๆแล้ว ค่ารถแบบเหมาแค่ 20 ดอลลาร์ (440 บาท) สำหรับผมถือว่าคุ้มนะ เพราะชอบนั่งรถเมลล์เที่ยวมั่วๆอยู่แล้ว
สำหรับที่พัก ผมจอง V Hotel Bencoolen ไว้ เพราะอยู่ติด MRT เดินทางสะดวกมาก ราคา 2,600 บาท/คืน มีสะดวกซื้อ 7-11, Cheers และฟู้ดเซ็นเตอร์เจ้าดังอย่าง Food Republic ตั้งอยู่ในรัศมี 200 เมตร
พอเช็คอินเสร็จ มีเวลาอีกเยอะกว่าบอลจะเตะก็ 2 ทุ่มเลยนอนพักเอาแรงสักหน่อยครับ
ตื่นมาอีกทีแวะ Food Republic ใกล้ๆ รองท้องก่อนไปดูบอล นั่งรถเมลจากย่าน Bencoolen ไปสนาม Singapore National Stadium ใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที รถจอดป้ายหน้าสนาม สังเกตุโดมใหญ่ๆ นั่นแหละครับ คือ สเตเดี้ยม เดินข้ามสะพานลอยก็ถึงละ ง่ายสุดๆ
ผมไปถึงสนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ 18.00 น. ก่อนบอลเตะ 2 ชั่วโมง เพื่อไปเดินเล่น ดูบรรยากาศ
แต่เมื่อไปถึงสถานที่จัดงาน คิดในใจว่า ทำไมมันเงียบจังหว่า คนไม่เยอะอย่างที่คิด หรือ ไปถึงเร็วไป ผมจึงเดินรอบสนาม 2 รอบได้เลย เล่นเอาเหงื่อซึม
1 ชั่วโมงก่อนเตะ คนยังหรอมแหรม แต่ที่แปลกใจ ด้านนอกไม่มีกิจกรรมอะไรเลย ทั้งๆที่ฟุตบอลเกมนี้ ถือเป็นเกมใหญ่ มีคลาส เพราะบราซิล มีดีกรีแชมป์โลก 5 สมัย และเพิ่งได้แชมป์โคปา อเมริกา 2019 มาด้วย ส่วนเซเนกัลเป็นถึงรองแชมป์ แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ ทีมล่าสุด
ประตูเปิดให้เข้าในเวลา 19.00 น. ก่อนสนามมีเจ้าหน้าที่ตรวจตัว ตรวจกระเป๋าก่อน ส่วนตั๋วบอลที่ปริ้นท์จากบ้านใช้สแกนเข้าสนามได้เลย
เมื่อเข้าไปถึงภายใน Singapore National Stadium รู้เลยว่า สนามนี้เจ๋งแน่ๆ ทำอย่างดีระดับสิงคโปร์อยู่แล้ว สนามกีฬาแห่งชาติไม่น้อยหน้าใคร
สนามแห่งนี้จุผู้ชมได้ 55,000 ที่นั่ง เป็นสนามกีฬาอเนกประสงค์ ดังนั้นจึงมีส่วนของลู่วิ่ง ทำให้ดูเกมไกลไปนิด ส่วนหลังคาสามารถเปิดปิดได้ จากข้อมูลบอกว่าเป็นสนามกีฬาที่หลังคาเปิดปิดได้ใหญ่ที่สุดในโลก
ส่วนที่ผมชอบคือ ที่นั่งชมเกม มีลมขึ้นมาเบาๆ ทำให้รู้สึกเย็นสบายตลอดเวลา ผิดกับสนามกีฬาในประเทศไทย ที่ส่วนมากจะต้องปาดเหงื่อไป ดูเกมไป เป็นเพราะมีระบบทำความเย็นในสนาม ที่สามารถปรับให้มีอุณหภูมิเฉลี่ย 23 องศาตลอดเกมการแข่งขัน ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ ประหยัดพลังงานกว่าใช้แอร์ 15%
ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้นประมาณ 45 นาที นักเตะทั้ง 2 ทีม ลงมาอบอุ่นร่างกาย ผมมายืนตรงทางออกอุโมงค์นักเตะ รอดูสตาร์ และก็ไม่ผิดหวัง ดาวเตะระดับโลกมาแบบจัดเต็ม ส่วนที่เรียกเสียงกรี๊ดดังที่สุดเห็นจะเป็น ซาดิโอ มาเน่ รองมาคือ โรแบร์โต้ เฟอร์มีโน่
ไม่แปลกใจเลยครับ แฟนบอลที่มาชมเกมในวันนี้ ใส่เสื้อลิเวอร์พูลเยอะมาก ขนาด เนย์มาร์ ซูเปอร์สตาร์อันดับ 1 ของบราซิล เสียงเชียร์ เสียงเรียกชื่อ ยังไม่ดังเท่า
เมื่อถึงเวลาประกาศรายชื่อ 11 ตัวแรก ทัพแซมบ้าส่งชุดเต็มลงเล่นเลยครับ เรียกได้ว่าทีมชุดนี้ค่าตัวรวมๆ น่าจะหลายหมื่นล้านบาท !!!
นำทัพโดย เอแดร์สัน, ดานี อัลเวส, ติอาโก ซิลวา, คาเซมิโร, กาเบรียล เฆซุส, ฟิลิปเป คูตินโญ, โรแบร์โต เฟอร์มีโน และเนย์มาร์
ขณะที่ฝั่งเซเนกัลส่งผู้เล่นที่ดีสุดลงสนามเช่นกัน ทั้ง คาลิดู คูลิบาลี, ซารีฟ ซาเน, ชีคคู คูยาเต, อิดริสซา กานา เกย์, ไซดี ซาร์ และซาดิโอ มาเน่
เห็นรายชื่อทั้งสองฝั่งแล้ว คิดว่ามาดูเกมยังไงก็คุ้ม เนื่องจากเกมแบบนี้ หาดูแถวบ้านเรายาก ถ้าไม่เป็นทัวนาเม้นท์ใหญ่ๆ อย่างฟุตบอลโลกคงยากที่จะมาเจอกัน
เกมนี้แม้จะเป็นแมทช์อุ่นเครื่อง แต่ทั้งสองทีมเล่นกันค่อนข้างจริงจัง จังหวะเข้าบอลบางช็อตก็แทบไม่ยั้ง ได้ใบเหลืองฝั่งละ 2 ใบ รูปเกมค่อนข้างสูสี บราซิลได้ประตูนำจาก เฟอร์มีโน่ ก่อนที่ ฟามาร่า ดิดิอู จะมายิงลูกจุดโทษตีเสมอ ทั้งสองประตูเกิดขึ้นในครึ่งแรก
ช่วงพักครึ่งแรก ผมเดินสำรวจอาหารการกิน และเครื่องดื่ม ราคาน้ำดื่มกับมันฝรั่งขายเป็นชุด 8 เหรียญ (180 บาท) ส่วนเบียร์แก้วละ 14 เหรียญ (300 บาท) ซึ่งถือว่าค่อนข้างแพงเลยทีเดียว ก็เลยซื้อเบียร์แก้วเล็กมาแค่ 1 แก้ว ขนาดใหญ่กว่าแก้วน้ำพลาสติกที่แจกในงานวิ่งนิดเดียว ส่วนเคาเตอร์ขายอาหารโซนที่ผมนั่งรับเฉพาะการ์ดนะครับ ไม่รับเงินสดเลย
ครึ่งหลัง ต่างฝ่ายผลัดกันรุก-รับ แต่ไม่สามารถเจาะสกอร์กันเพิ่มได้ ส่วนตัวผมว่า นักเตะบราซิลยังไม่ท๊อปฟอร์มเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะคุณภาพนักเตะเซเนกัลแข็งแกร่งมากเช่นกัน โดยเฉพาะ มาเน่ วันนี้เล่นได้อย่างโดดเด่น ป่วนแนวรับบราซิลได้ตลอดทั้งเกม
สำหรับบรรยากาศกองเชียร์ในเกม ผมคิดว่า น่าผิดหวังพอสมควร ไม่ได้คึกคัก สนุกสนาน อย่างที่คิด แฟนบอลค่อนข้างบางตา เข้าสนามเพียง 20,721 คน ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของความจุเลยด้วยซ้ำ
สาเหตุหลักที่คนมาน้อย อาจจะเป็นเพราะเป็นวันธรรมดา คนส่วนใหญ่ทำงานแล้วกลับบ้าน (เตะคืน พฤหัส เช้าวันศุกร์ก็ยังต้องทำงานต่อ)
คิดแบบไม่เข้าข้างนะ ผมว่าถ้าเกมนี้มาจัดที่เมืองไทย รับรองบรรยากาศคึกครึ้นกว่าเยอะ
ถ้าถามว่า คุ้มไหม สำหรับผมแล้ว ถือว่าคุ้มครับ โอกาสที่จะได้ชมเกมคุณภาพ ชมผู้เล่นระดับเวิร์ลคลาส และทีมที่สุดยอดจาก 2 ทวีป มาดวลแข้งกัน แบบค่อนข้างจริงจัง หาไม่ง่ายนัก
ทำคลิปประกอบครั้งแรก มือใหม่มาก ขอบคุณที่ติดตามชมครับ